วางแผนอนาคตกับโลกระบาด

2

ในรอบปีที่ผ่านมาหลังจากเกิดโรคระบาด ได้ติดตามข่าวการปิดโรงงานหลาย ๆ ที่จากทั่วประเทศ และล่าสุดกับโรงงานแห่งหนึ่งในสมุทรปราการ ทำให้พนักงานโรงงานหลักพันคน ตกงานแบบไม่ทันตั้งตัว เนื่องจากไม่สามารถที่จะขายของได้แบบที่เคยเป็น ประกอบกับต้นทุนที่สูง จึงขอปิดกิจการในที่สุด แน่นอนว่าข่าวนี้ไม่ใช่ข่าวแรก เพราะตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึง ณ ตอนนี้ ก็ได้เจอข่าวปิดกิจการไปค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กไปถึงใหญ่

โควิท-19 ที่โลกเราเจอกับการระบาดมาแล้วหนึ่งปีกว่า ๆ ส่วนตัวของผู้เขียน ไม่เคยนึกเลยว่าโรคระบาดหน้าตาจะเป็นอย่างไร เคยท่องเน็ตหาอ่านข่าว เพราะอยากรู้ว่าโลกเราเป็นมาอย่างไร ก็ไม่เคยซึมซับกับมัน เพราะคิดว่าค่อนข้างไกลตัว และไม่เคยคิดว่า โรคระบาดจะหยุดยั้งโลกของเราได้ชะงัก

ต้องบอกเลยว่าก่อนโควิทจะมา เราได้เห็นกิจการออนไลน์เฟื่องฟูแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน คนหันมาขายของออนไลน์กันมากขึ้น เพราะสามารถที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างง่ายดาย และไม่ต้องเสียค่าเช่าที่ สามารถติดต่อกับผู้ซื้อได้โดยตรง และที่สำคัญคือคนหันมาซื้อของออนไลน์กันมากขึ้น เนื่องจากราคาที่ถูกกว่า คุณภาพไม่ต่างกัน (แต่ต้องเลือกนิดนึง)

แน่นอนว่าคนที่ได้รับผลกระทบจากโควิท ก็ได้อาศัยช่วงเวลานี้ได้ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งสิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือการทำอาหาร บางคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าตัวเองมีความสามารถบางอย่าซ่อนอยู่ เช่นการทำอาหาร จะสามารถทำแล้ว คนอื่นชอบได้เหมือนกัน จนสามารถทำเป็นอาชีพหลัก สร้างรายได้ ได้มากกว่างานประจำเสียอีก หรืออย่างบางคน อาจจะตัดสินใจขายเสือผ้า ขายของนำเข้าจากจีน อย่างเช่น ของเล่นเด็ก แฟชั่น หรืออย่างล่าสุดที่เป็นกระแสฮิตมาช่วงนึงก็คือการปลูกต้นไม้ ไม้มงคล ไม้ประดับ ไม้ฟอกอากาศ และช่องทางการขายมีหลากหลายมาก ๆ นอกจากนี้การที่สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก อาจจะต้องใช้เงินทุนสักหน่อย และถ้าเอาจริงเอาจัง ก็สามารถสร้างรายได้ได้อย่างงามเช่นกัน

สิ่งเหล่านี้จะเป็นแรงกระตุ้นชั้นดีสำหรับคนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากโควิท เพราะด้วยเทคโนโลยีและออนไลน์สมัยนี้ ที่สามารถย่อโลกของเราลงมาให้ใกล้ชิด และจะทำให้รู้ว่าในความโชคร้าย ยังมีความโชคดีซ่อนอยู่ที่เราต้องปรับตัวกับมันไปให้ได้