เงินที่ใช่ หรือ งานที่รัก

0

วันนี้เราจะมาพูดถึง งานที่รัก หรือ เงินที่ใช่ เชื่อว่ามีหลาย ๆ คนเคยได้ยินว่า ถ้าทำงานที่ตัวเองรัก ก็จะไม่รู้สึกว่าทำงาน ซึ่งอาจจะจริงครึ่ง ไม่จริงครึ่ง ถ้างานที่เรารัก สามารถเลี้ยงดูเราไปได้ตลอด แต่กลับกัน คนบางคน ได้งานที่ตัวเองไม่ได้รัก แต่เงินดี จนทำให้รู้สึกทนทำไปก็ได้ เพราะยังไง เงินเดือนก็สามารถเลี้ยงดูเราได้ดีกว่า หรือบางคนอาจจะค้นหาตัวเองไม่เจอ ไม่รู้ว่างานที่รักคืออะไร ก็ลองทำมันไปทุกรูปแบบ โดยสมัครงานในบริษัทใหญ่ ๆ เพื่อความมั่นคง หน้าที่การงานที่ดี และเงินเดือนที่สูง

งานที่รัก หรือ เงินที่ใช่

งานที่รักคืองานที่เราสามารถทำไปแล้วยิ้มกับมันได้ โดยที่มีปัญหาก็อยากจะไปเผชิญหน้ากับมัน ไม่อยากจะทิ้งหายไปไหน ต่อให้ทำผิดพลาด ชิบหายวอดวายขนาดไหน ก็อยากที่จะทำมันต่อไป ซึ่งถ้าเราอ่านแล้วส่ายหน้าให้กับงานที่เราทำอยู่ในปัจจุบัน ตอบได้เลยว่านี่ไม่ใช่งานที่เรารักละ

บางคนอาจจะใช้เวลาหางานที่ตัวเองรัก เพื่อที่จะได้ทำยาว ๆ แต่ถ้าการหางานที่รักมันใช้เวลามากเกินไป ก็ควรที่จะหยุดและลองทำงานที่ตัวเองทำอยู่ ณ ปัจจุบัน ทำให้ดีไปก่อน เพราะถ้ามัวแต่ลองหางานที่ตัวเองรัก เราอาจจะพลาดโอกาสดี ๆ ตอนที่เราทำมันอยู่ ณ ปัจจุบันก็ได้

จากผลสำรวจเรามักจะพบว่าคนเราจะเลือกงานจากเงินที่ได้รับมากกว่า แม้ว่างานนั้นจะไม่ถูกใจเลยก็ตาม แต่จะทำยังไงได้ เมื่อเงินสามารถเลี้ยงดุครอบครัวเราได้ดีกว่างานที่รัก และยิ่งสำหรับคนที่มีภาระเยอะ ต้องรับผิดชอบชีวิตคนในครอบครัว ต้องคิดทบทวน ว่าเงินที่ได้จะสามารถเลี้ยงดูคนในครอบครัว ได้หรือไม่ ถึงแม้จะต้องเจอกับการทำงานที่ใช้เวลานาน เลิกดึก ก็ต้องรับสภาพกันไป

แน่นอนว่าการมีเงินเยอะๆ สามารถซื้อความสุขให้กับเราได้ แต่การจะได้เงินเยอะ ๆ นั้นเราจะต้องแลกกับการทำงานที่มุมานะ และเข้าตาผู้บริหาร หรืออาจะเข้าไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมกับคนเก่งที่พร้อมผลักดันให้เราก้าวไปข้างหน้า เมื่อเรามีหน้าที่การงานที่ดี เงินเดือนที่ดีก็จะตามมา เหมือนการสร้าง แพสชั่นให้กับตัวเองว่าการก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ก็ได้เงินเยอะ ๆ เหมือนกัน แต่สำหรับคนบางคนการได้เงินเยอะๆ ไม่ได้ทำให้เรามีความสุขเพิ่มขึ้นมากเท่าไร ถ้างานที่เราทำอยู่นั้นไม่ได้ทำให้เรามีความสุข

ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงเป็นลำดับต้น ๆ ของการเลือกงานไม่แพ้ความชอบ เพราะถ้างานที่เรารัก เงินน้อยจนเลี้ยงตัวเองไม่ไหว หรือถ้าอยู่ในเกณฑ์ทีี่เราพอจะรับได้ แต่ถ้าทำไปสัก 10 ปี เงินเดือนไม่ไปไหน เราก็ต้องตัดใจยอมหลีกงานที่เรารัก เพื่อโอกาสที่ดีสำหรับอนาคต แต่ถ้าทำได้ เราได้งานที่รักแล้ว โชว์ศักยภาพออกมาได้เต็มที่ แน่นอนว่า ค่าตอบแทนจะต้องดีตามมาอย่างแน่นอน และผมเชื่อว่าต้องมีหลาย ๆ คน อิจฉาคุณอย่างแน่นอน ที่ได้ทำงานที่รัก และสามารถมีเงินเดือนมากพอที่จะเลี้ยงครอบครัว

เราอาจจะตีความหมายของความสุขจากการทำงานนั้น คือ เงิน แต่ถ้าต้องทนนั่งหน้าเครียดตลอดเวลาที่ทำงาน นั่นก็ไม่น่าจะใช่ ยิ่งเราสะสมความเครียดจากการทำงานมากเท่าไหร่ มักจะมีผลร้ายตามมาเสมอ อย่างเช่นโรคภัยไข้เจ็บ โรคซึมเศร้า หรือ ภาวะออฟฟิตซึนโดรม เงินที่เราหามาได้จากการทำงานก็ต้องมาใช้รักษาตัวเอง เราก็ควรแบ่งระดับการให้งานให้พอดีกับตัวเอง เหมือนกับคำว่า Work Life Balance

สุดท้ายนี้อยากจะฝากไว้สักนิด ถ้ามีงานอะไรตอนนี้และด้วยสถาณการณ์อย่างนี้ ไม่ว่าจะเป็นงานอะไร ทำไปก่อน เพราะมีคนเคยพูดไว้ว่า “ความจนมันน่ากลัว” สวัสดีครับทุกคน