ไม่ว่าคุณจะมีจุดยืนทาง การเมือง ฝั่งไหน เรามีคำแนะนำที่จะช่วยให้คุณผ่านพ้นช่วงเวลาที่การเมืองกำลังดุเดือดแบบนี้ไปได้
เราคงพูดได้เต็มปากแล้วว่า คนไทยทุกคนกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่สถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันกำลังจะกลายเป็นประวัติศาสตร์สำคัญของประเทศไทย ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ข่าว การเมือง คือกระแสหลักของสื่อไทยไม่ว่าจะเป็นทีวีหรือออนไลน์ ซึ่งทำให้คนไทยหันมาสนใจการเมืองมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ความเข้มข้นของข่าวนั้นอาจทำให้ผู้อ่านบางคนรู้สึกเครียดและวิตกกังวล โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่อนาคตของพวกเขาเต็มไปด้วยคำถามและความไม่แน่นอน
ความเครียดนี้ไม่ได้เกิดจากเเค่การเสพข่าวเท่านั้น แต่อาจจะเกิดจากการถกเถียงกับคนเห็นต่าง โดยเฉพาะเพื่อนหรือบุคคลในครอบครัวที่ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างกันต้องเปลี่ยนแปลงไป
สัญญาณความเครียดจาก การเมือง
บทสนทนาทางการเมืองกลายเป็นหัวข้อสำคัญที่กลุ่มเพื่อนและครอบครัวถกเถียงกันอย่างออกรส ไม่ว่าการสนทนานั้นจะเกิดขึ้นกับกลุ่มคนที่คิดเหมือนกันหรือคิดต่าง ความเครียดของประเด็นที่พูดคุยอาจส่งผลต่อสุขภาพได้ เช่น
- ความดันโลหิตสูงกว่าปรกติ
- น้ำหนักเพิ่ม หรือ ลด อย่างไม่ปรกติ
- มีความรู้สึกวิตกกังวลตลอดเวลส
- อารมณ์แปรปรวน
- มีปัญหาเรื่องการนอน
ปัญหาเหล่านี้ไม่ค่อยปล่อยทิ้งไว้โดยหวังว่ามันจะหายไปเอง แต่ควรได้รับการดูแลอย่างจริงจัง
วิธีรับมือความเครียดจากประเด็นทางการเมือง
ถึงแม้ผู้เขียนจะไม่ได้เป็นจิตแพทย์ แต่ได้นำข้อมูลที่เกี่ยวข้องจาก University of Michigan Comprehensive Depression Center มาสรุปให้ได้อ่านกันครับ
1. มีสติ และจำกัดเวลาในการอ่านข่าวการเมือง
หากคุณตื่นเช้าเเล้วเข้าโซเชียลมีเดียเพื่อเช็คข่าวการเมืองทัน หรือ เข้าทวิตเตอร์แล้วตามดู Social Feed ถี่เกินไป เนื้อหาที่คุณอ่านอาจจะทำให้คุณเครียดมากเกินไปจนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน
คำแนะนำของจิตแพทย์คือให้เเบ่งเวลาเพื่ออ่านข่าวการเมือง และเลือกรับข่าวที่เชื่อถือได้บนพื้นฐานของความเป็นจริง หรือ รับข่าวจากสื่อที่เที่ยงตรง รวมถึงหลีกเลี่ยงการรับข้อมูลจาก Account ต่าง ๆ จาก Twitter หรือ Facebook ที่มากเกินไป
2. ดูสภาพแวดล้อมก่อนแสดงความเห็นทางการเมือง
การสนทนาการเมืองกับเพื่อนฝูงและคนในครอบครัวเป็นเรื่องที่ดีที่จะส่งเสริมให้คนหันมาสนใจการเมืองมากยิ่งขึ้น แต่ในมุมกลับกัน ความคิดเห็นของคุณอาจไม่ถูกใจคนที่เห็นต่าง ซึ่งสามารถสร้างความขัดแย้งได้ภายหลัง
จำไว้ว่า อย่าเพิ่งรีบทึกทักไปว่าคนที่เราคุยด้วยมีความเห็นทางการเมืองตรงกันกับเรา เพราะการพูดคุยต่อมาอาจสร้างความลำบากใจ จนส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ในอนาคต
สำหรับใครที่ลูกหลานชอบอ่านข่าวการเมืองในช่วงนี้ ผู้ปกครองควรชี้แนะและสร้างความเข้าใจต่อบุตรหลานของท่านด้วยความถูกต้อง เข้าใจ และประณีประนอม เนื้อหาที่พูดคุยต้องอยู่บนหลักของความจริง ไม่ใช่เพียงแค่ทัศนะส่วนตนเท่านั้น
การคุยกับคนเห็นต่างเป็นเรื่องที่ดีที่จะได้รับมุมมองใหม่ แต่คนเห็นต่างบางประเภทก็พร้อมจะโต้เถียงด้วยความรุนแรงบนพื้นฐานของความเชื่อส่วนบุคคล
3. เปิดใจรับมุมมองที่เห็นต่าง
การได้รับฟังความเห็นทางการเมืองที่แตกต่างจากเราเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้ถกเถียงและให้ความรู้ต่อกันบนพื้นฐานของความถูกต้อง
ความเชื่อส่วนบุคคลมักมีเหตุผลมารองรับเสมอ ไม่ว่าความเชื่อนั้นจะเป็นประเด็นทางการเมืองหรือตัวบุคคล เหตุผลเหล่านี้ไม่มีทางเลยที่ผู้อื่นจะรับรู้จนกว่าจะถูกถามและคนถามมีความพร้อมจะเปิดใจรับฟัง การได้พูดคุยกับคนเห็นต่างด้วยความสุภาพและเหตุผล จะเปิดมุมมองต่อโลกอีกด้านที่เราไม่เคยได้ศึกษา
การเลือกรับข้อมูลหลายด้าน รับฟังคนเห็นต่างด้วยความเคารพ จะช่วยให้เราเข้าใจมุมมองและมีข้อมูลทางการเมืองรอบด้านมากขึ้น เมื่อเราเข้าใจทรรศนะและทิศทางทางการเมืองกว่าเดิม โอกาสที่ความเครียดจะลดลงก็มีเพิ่มมากขึ้นกว่าตอนฟังข่าวสารด้านเดียวตลอดมา
4. ยุติบทสนทนาที่ไม่เกิดประโยชน์
ถ้าการพูดคุยเกี่ยวกับการเมืองเริ่มมีความขัดแย้งมากขึ้น การเดินออกมาจากกลุ่มสนทนานั้อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
ลองหันไปมองรอบตัวเเล้วเริ่มต้นทำกิจกรรมที่สงบจิตสงบใจชั่วคราว ก่อนเเบ่งเวลาไปตามข่าวการเมืองใหม่ในเวลาหน้า
5. ตรวจสอบระดับความสนใจทางการเมืองของเราอีกครั้ง
ไม่ใช่เรื่องผิดที่เราจะตื่นตัวและติดตามการเมืองอย่างใกล้ชิด แต่ต้องไม่ลืมว่าสุขภาพกายและจิตใจของเราก็เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลย
ใช้เวลาว่างลองประเมิณตัวเองอีกครั้งว่า เราตามข่าวการเมืองไปทำไม เราตามข่าวมากแค่ไหนต่อวัน เราตามข่าวผ่านช่องทางไหนบ้าง และที่สำคัญที่สุด เมื่อตอบคำถามทั้ง 3 ก่อนหน้าได้เเล้ว มันทำให้เรารู้สึกอย่างไร
การประเมิณตัวเองด้านการเมืองเป็นเรื่องที่ดี หากเราเลือกที่จะติดตามเองก็ควรพิจารณาถึงความถี่ที่เหมาะสมในการติดตาม หรือหากเราอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สมาชิกครอบครัวเปิดทีวีดูข่าวการเมืองทั้งวันจนเราอินไปด้วย เราก็ควรลองออกไปจากพื้นที่ตรงนั้นดูบ้าง
เป็นเรื่องสำคัญที่เราจะตื่นตัวทางการเมือง เพราะการเมืองเป็นเรื่องใกล้ตัวและเป็นเรื่องของทุกคน แต่อย่าลืมว่าการดูแลสภาพร่างกายและจิตใจของเราให้ดี ก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน