Passion ของคนทำงานที่กำลังหมดไป

0

เมื่อพนักงานออฟฟิต เดินหน้าทำงานจากวัยรุ่นไฟแรง ที่จบมาหางานทำ พร้อมกับไฟในตัวที่ลุกโชน ที่พร้อมจะแสดงฝีมือในการทำงาน มี Passion เต็มเปี่ยม ซึ่ง Passion ในที่นี้ก็คือความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน ไม่ใช่ Passion ในเรื่องความรักนะครับ หลังจากผ่านการร่ำเรียนมาเกือบ 20 ปีจากอนุบาล ประถม มัธยม และมหาลัย และเป้าหมายคือการหาเงินเลี้ยงชีพ เลี้ยงครอบครัว หรือบางคนเดินตามความฝัน ได้ทำงานที่ใจรัก อยากจะพัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ สามารถก้าวไปอยู่ในตำแหน่งที่สูง ซึ่งก็แน่นอนว่าตำแหน่งที่สูงก็จะมาพร้อมกับเงินเดือนที่สูงตามตำแหน่งไปด้วย แต่ใครจะรู้ว่าในวันนึงเมื่อเข็มนาฬิกาเดินไปเรื่อย ๆ พร้อมกับไฟในตัวที่ค่อย ๆ ดับทีละนิด ๆ จนกลายเป็นแค่พนักงานออฟฟิตที่ทำงานให้จบไปวัน ๆ โดยไม่ได้มีความคิดที่อยากจะพัฒนาตัวเองเหมือนตอนแรกเริ่ม ซึ่งเป็นคำตอบของคำว่า Passion
แน่นอนว่าการขาด Passion นอกจากจะกระทบต่อตัวเราเองแล้วนั้น ยังกระทบต่อองค์กร เพื่อนร่วมงานอีกด้วย และเราจะรู้ได้ยังไงว่าหมด Passion แล้ว บางคนอาจจะแค่เบื่อ เบื่อกับเพื่อนร่วมงาน เบื่อกับสิ่งแวดล้อม เบื่อกับปัญหาที่ถาโถมเข้ามา ซึ่งอาการเหล่านี้มาแปป แล้วเราก็หาย เราก็ยังสามารถหัวเราะให้กับเรื่องเหล่านี้ได้ กลับบ้านแล้วก็ลืม วันหยุดพักผ่อนแล้วก็หาย แต่สำหรับ Passion มันคือยังไง เราลองมาดูกัน

1. คนที่หมด Passion จะมีความรู้สึกเครียด เหน็ดเหนื่อย หมดพลัง บางคนหมดสนุกไปกับการทำงาน ไม่พร้อมที่จะรับงานใหม่ ๆ แค่งานที่ได้รับอยู่ตรงหน้ายังมีความคิดที่จะไม่อยากทำ หรือทำให้เสร็จ ๆ ไป โดยไม่สนใจความถูกต้องเรียบร้อย เมื่อถึงเวลาพักผ่อน จะรู้สึกไม่สบายตัว ไม่ผ่อนคลาย


2. คิดอะไรใหม่ ๆ ไม่ออก หรือ เรียกง่าย ๆ ก็คือ ตันในความคิด มองไปทางไหน ก็ไม่เห็นหนทางใหม่ ๆ คิดแต่เรื่องเดิมซ้ำไปซ้ำมา เนื่องจากสมองไม่รู้สึกสบายผ่อนคลาย ไม่ได้รับความรู้สึกสนุก เมื่อมีความรู้สึกไม่ได้ผ่อนคลาย ก็เป็นเหตุให้ไม่สามารถคิดอะไรใหม่ ๆ ที่เป็นความคิดสร้างสรรค์ได้


3. จะลิ้งค์ไปกับข้อที่ 1 คือ การทำงานแค่ให้เสร็จ ให้งานที่ได้รับมอบหมายเสร็จ แต่ปราศจากความเรียบร้อย และที่สำคัญถ้ามีเพื่อนร่วมงานที่ได้รับงานชิ้นเดียวกัน และเค้าทำได้ดีกว่า เราก็จะไม่รู้สึกแย่ หรือว่าผิดหวังที่ตัวเราเองนั้นทำได้แย่กว่าเพื่อนร่วมงาน ถ้าเป็นคนที่มี Passion จะมองหาจุดอ่อนของตัวเองว่าทำผิดพลาดตรงไหน ตรงไหนที่สามารถจะยกระดับขึ้นมาได้อีก เพื่อนให้หัวหน้างาน หรือ เพื่อนร่วมงานยอมรับในตัวเรา


4. เกิดจากสาเหตุที่เราทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งซ้ำ ๆ กันมากเกินไป อย่างเช่นตื่นเช้า กินข้าวเช้า เดินทางไปทำงาน ทำงาน พักเที่ยง เลิกงานดึก กลับบ้าน อาบน้ำ นอน แล้วก็วนอย่างงี้ไปเรื่อย ๆ จนนานวันเข้า เราก็จะเกิดคำถามกับตัวเราเองว่า ทำไปเพื่ออะไรนะ



5. ขาดการสนับสนุนจากหัวหน้างาน ทั้ง ๆ ที่ก็ได้ทำงานเหมือนกัน ชิ้นงานเหมือนกัน แต่ทำไมนะ พอถึงเวลาประเมิณโบนัส หรือปรับตำแหน่ง แล้วเราไม่ได้สักที ทั้ง ๆ ที่เราก็ทำได้เหมือนกัน ซึ่งคำถามนี้ ไม่ควรปล่อยทิงไว้นาน ควรรีบถามหัวหน้างานทันที ที่เราเกิดคำถามนี้ในใจ ซึ่งหัวหน้างานก็จะได้อธิบาย จุดแตกต่างระหว่างเรากับเพื่อนร่วมงาน


เคยมีคำพูดของ Steve Jobs ที่เคยกล่าวไว้ว่า “วิธีเดียวที่คุณจะทำงานได้ยอดเยี่ยม คือคุณจะต้องรักในสิ่งที่คุณทำ” แต่ใช่ว่าทุกคนจะหางานที่ตัวเองรักได้ทุกคน โดยส่วนใหญ่คนที่ทำงานที่ตัวไม่ได้รัก เพราะได้ค่าตอบแทนที่สูง สามารถเลี้ยงตัวเอง และครอบครัวได้ เราก็จะต้องเลือกแล้วว่า เราจำใจที่จะทำเพราะเงินสามารถเลี้ยงเราให้อยู่รอดได้ หรือจะออกไปตามหาสิ่งที่ตัวเองรัก โดยไม่รู้ว่าจะเจอเมื่อไหร่

แต่ใช้ว่า Passion จะหมดแล้วหมดเลย เราก็เลยลองหาวิธีสร้าง Passion ให้เกิดขึ้นมาอีกครั้ง สาเหตุของแต่ละคนนั้นก็อาจจะแตกต่างกันออกไป ถ้าสร้างมันขึ้นมาได้ ก้ควรรีบสร้างก่อนที่ชีวิตเราจะหาจุดมุ่งหมายไม่เจอซะเลย เราลองมาดูวิธีง่าย ๆ ที่จะสร้างขึ้นมาดูกัน

1. หาอะไรใหม่ ๆ ในชีวิต เช่น ออกไปค้นหาตัวเอง และ ให้อิสระกับชีวิตตัวเองมากขึ้น  โดยพักเรื่องงานประจำ ลาหยุดไปใช้ชีวิตแบบอิสระ ทำอะไรใหม่ ๆ อย่างเช่น วันพักร้อนยาว ๆ ลองออกไปต่างจังหวัด ไปดูวิถีชีวิตคนต่างจังหวัด ซึมซับขนบ ธรรมเนียมแต่ละจังหวัด ได้กินอาหารพื้นเมือง ทำอะไรก็ได้ที่ทำให้เราไม่คิดแต่เรื่องงานประจำวัน แต่เติมความสุขลงไปในชีวิต เพื่อสร้างพลังให้พร้อมกลับมาทำงานประจำ ซึ่งสิ่งใหม่ ๆ เหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่กระตุ้นพลังงานเราไปในตัว และอาจทำให้เลิกเบื่อไปเลยก็ได้ 

2. มองหาสิ่งที่ตัวเองถนัดและทำได้ดี บางคนอาจจะคิดว่าสิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันนี้ มันคือสิ่งที่เราทำได้ดีอยู่แล้ว ทำให้ไม่กล้าออกไปหาสิ่งใหม่ ๆ อยากให้ลองถามตัวเองดูอีกครั้งว่า Passion ที่หมดไป เพราะว่างานที่เราทำอยู่ประจำอยู่ทุกวันนี้หรือปล่าว ถ้าใช่ แล้วเรายังกลัวที่จะออกไปหาสิ่งใหม่ ๆ อีกหรือปล่าว ลองทบทวนตัวเองดูให้ดี และอย่ากลัวถ้าหากวันนึงจะต้องเปลี่ยนแปลง เพราะโลกทุกวันนี้ก็เปลี่ยนแปลงไปทุกวัน อยู่ที่เราจะเดินตามการเปลี่ยนแปลงหรืออยู่นิ่งกับที่

3. ให้ลองหาสิ่งใหม่ ๆ เติมเต็มให้กับชีวิตไปเรื่อย ๆ หรือหา  Passion ของตัวเอง เราอาจจะมองหา Passion จากสิ่งอื่นก็ได้นอกจากงานประจำวันที่เราทำ บางคนอาจจะมี Passion จากการท่องเที่ยว บางคนอาจจะมี Passion จากการได้กินอาหารอร่อย หรือบางคนแค่ได้เห็นดาราก็มีความสุขพร้อมที่จะดำเนินชีวิตประจำวัน และต่อสุ้ไปกับทุกเรื่อง ซึ่งเมื่อเราตามหาสิ่งเหล่านี้เรื่อย ๆ ก็จะเพิ่มพลังบวกให้กับตัวเราเองได้อย่างมีความสุข 

สุดท้ายนี้อยากจะฝากไว้ก็คือ Passion ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ มันจะเป็นพลังบวกให้เราขับเคลื่อนชีวิตเราได้อย่างมีความสุข และพร้อมที่จะผจญกับปัญหาต่าง ๆ ได้อย่าง มีหลักเหตุและผล ถ้าเหนื่อยเราก็พัก หรือเมื่อไหร่ก็ตามที่เราหมด Passion อย่าทำให้ชีวิตเราต้องจมกับความสิ้นหวัง แต่ให้ออกไปเผชิญกับสิ่งแปลกใหม่ แล้วลองกลับมาดูความเปลี่ยนแปลงในตัวเราเองกัน