เมื่อราคา ทอง พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์

1

ใครจะคาดคิดว่าในปี 2563 ราคา ทอง ได้พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ทำ New high และสามารถทำให้คนที่ถือทองติดยอดดอยได้ลงจากดอยสวย ๆ  

ปี 2563 เป็นปีที่ราคาทองได้พุ่งขึ้นมากกว่า 30% ส่วนหนึ่งนั้นเกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของโควิท-19 ที่หลาย ๆ ประเทศยังควบคุมไม่ได้และวัคซีนก็ยังอยู่ในขั้นตอนของการทดสอบ, ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน และการเข้าซื้อทองคำของกองทุน ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาทองพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์

ทำไมราคาทองถึงขึ้นสูง แต่ขณะที่ราคาหุ้นกลับดิ่งลง 

ทอง

เราขอพูดถึงทองกันแบบง่าย ๆ 

ทองเปรียบเสมือนสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมีความผันผวนน้อยกว่าหุ้น เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อย่างเช่นโรคระบาดที่ทั่วทั้งโลกกำลังเผชิญอยู่ ณ ตอนนี้, มาตราการการปิดเมืองต่าง ๆ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจโลก การค้าขาย ทำธุรกิจแทบจะหยุดชะงัก และทั่วทั้งโลกกำลังเผชิญบททดสอบครั้งใหญ่

เมื่อเศรษฐกิจโลกกำลังถดถอย นักลงทุนในหุ้นต่างเผชิญกับความเสี่ยงในการลงทุน ทำให้เราได้เห็นในช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนจะเทขายหุ้น และเลือกลงทุนกับสินทรัพย์ทที่มีความปลอดภัยมากกว่าเช่น การลงทุนในทอง เราจึงได้เห็นการพุ่งทะยานของราคาทองอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งการลงทุนแบบนี้ก็เปรียบเสมือนหลุมหลบภัยชั้นยอดของเหล่านักลงทุน ด้วยความปลอดภัยของเงินลงทุนที่มีมากกว่า เพราะไม่ว่ายังไง ทองคำก็เป็นสินทรัพย์ที่มีค่า และมีความต้องการอยู่เสมอ 

เมื่อราคาทองดันสูงขึ้นถึงระดับ New high ก็มักจะเกิดคำถามที่ว่าถึงเวลาที่เราควรจะขายทองแล้วหรือยัง หรือยังคงควรถือไว้ เผื่อราคาจะขึ้นไปสูงกว่าเดิมอีก

สำหรับผู้เขียนมีมุมมองว่า เมื่อราคาได้ถึงจุดที่เรียกว่า New high แล้วนั้น เราก็ควรที่จะขายเพื่อ Take profit ไว้ส่วนหนึ่ง เนื่องด้วยสถาณการณ์ปัจจุบัน หลาย ๆ ประเทศได้คิดค้นวัคซีนสำหรับต้านไวรัสมรณะนี้แล้ว ถ้าวันใดวันหนึ่งวัคซีนได้รับการอนุมัติมาใช้จริงแล้ว เชื่อว่านักลงทุนก็เตรียมพร้อมที่จะหลบออกจากหลุมหลบภัยนี้ ซึ่งอาจจะมีผลทำให้ราคาทองเกิดการหดตัวลงมาอีกครั้ง

อ้างอิงราคา ทอง ประจำวัน

https://www.goldtraders.or.th/