งาน Startup Thailand 2016 ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นงานที่บริษัทยักษ์ใหญ่และบริษัทยุคใหม่ได้มารวมตัวกันเเสดงผลงานและเเนวคิดที่น่าสนใจในการทำธุรกิจหลากหลายรูปเเบบ วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังคร่าวๆกับสิ่งที่ผมได้เห็นจากการไปเข้าร่วมในงานนี้มาครับ
การทำธุรกิจในปัจจุบันมีเเนวโน้มไปสู่โลกดิจิทัลมากยิ่งขึ้น สินค้าที่ขายทั่วไปก็เริ่มผันตัวเองเข้าสู่ช่องทางการขายออนไลน์ สิ่งที่เห็นได้ชัดจากงาน Startup Thailand 2016 คือธุรกิจส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบดิจิทัล
เทรนด์ธุรกิจที่เห็นได้ชัดจากงานนี้คือธุรกิจดิจิทัล หากเรามองลึกเข้าไปอีกเราจะเห็นได้ชัดว่าการทำธุรกิจเเบบตัวช่วยในรูปเเบบออนไลน์เป็นที่นิยมอย่างมาก ธุรกิจเเบบที่ว่าเป็นธุรกิจเเบบไหน ธุรกิจตัวช่วยในรูปแบบออนไลน์คือธุรกิจตัวกลางที่ช่วยให้ร้านค้ากับผู้บริโภคหรือกลุ่มเป้าหมายหลากหลายกลุ่มได้เจอกันสะดวกยิ่งขึ้น เช่น เเอปพลิเคชั่นหาเพื่อนร่วมทริป เเอปพลิเคชั่นท่องเที่ยว เว็บไซต์บริการส่งสินค้า หรือ เว็บไซต์ตัวกลางขายของ อีกรูปแบบหนึ่งของเทรนด์ธุรกิจออนไลน์คือเครื่องมือช่วยเหลือเเบบออนไลน์ในการทำธุรกิจ เช่น ตัวช่วยในการบริหารจัดการบัญชี ตัวช่วยในการจัดการภาษี หรือ ตัวช่วยในการวิเคราะห์เเละประเมินยอดขาย ธุรกิจเหล่านี้ในอนาคตจะมีเพิ่มมากขึ้นอย่างเเน่นอน
ท่าทีของบริษัทยักษ์ใหญ่กับการลงทุนใน บริษัท Startup มีความชัดเจนเเละคึกคัก ตัวอย่างเช่น Dtac กับโปรเเกรม Dtac Accelerate หรือ AIS กับโปรเเกรม The Start up ที่ส่งเสริมเเละช่วยเหลือทางด้านเงินทุนเเก่ธุรกิจ Startup ที่มีไอเดียเเละเเผนธุรกิจที่น่าสนใจ นอกเหนือจากนี้ท่าทีของรัฐบาลก็มีการสนับสนุนบริษัท Startup มากขึ้นในรูปเเบบการจัดงานโปรโมตต่างๆ รวมถึงมาตรการภาษีที่ออกมาช่วยบริษัท Startup และ SME มากยิ่งขึ้น
ในสถานการณ์ปัจจุบันเราจะเห็นธุรกิจดิจิทัลที่เกิดใหม่เยอะยิ่งขึ้น ผู้บริโภคจะมีตัวเลือกในการเลือกซื้อสินค้าเเละบริการที่หลากหลาย เเต่ตัวเจ้าของธุรกิจเองจะมีการเเข่งขันกันมากยิ่งขึ้น บางธุรกิจจะกลายเป็น Red Ocean ที่เจ้าของธุรกิจต้องวางเเผนเเละใช้ความคิดสร้างสรรค์ทางการตลาดเพื่อเเข่งขันในตลาดที่ดุเดือดได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
