หากพูดถึงกิจกรรมที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างผู้เล่นได้ดีในปัจจุบัน คงหนีไม่พ้นบอร์ดเกม หรือเกมกระดานที่กำลังฮิตกันอยู่ และเชื่อว่าหลายคนคงเคยลองเล่นกันมาบ้างแล้ว
ส่วนตัวผู้เขียนได้มีโอกาสลองเล่นบอร์ดเกมครั้งแรกเมื่อสามเดือนที่เเล้ว จนกระทั่งทุกวันนี้ บอร์ดเกมได้กลายเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมหลักที่ผู้เขียนมักจะชวนเหล่าผองเพื่อนมาเล่นเมื่อมีเวลาว่างพร้อมกัน และร้านที่พวกผมไปกันเป็นประจำคือร้าน Boarding Time
คงจะเป็นเรื่องเเปลกที่คนในวงการบอร์ดเกมจะไม่รู้จักร้านบอร์ดเกมที่มีชื่อเสียงในย่านเพลินจิตอย่างร้าน Boarding Time Board Game Cafe ที่มีจุดเริ่มต้นจากกลุ่มคนที่มีใจรักในการเล่นบอร์ดเกมอย่างคุณนิด พิษณุและภรรยา คุณออม สินีพรรณ ศัตรูลี้ คุณเอิร์น ปริทัศน์ พงศ์เศรษฐไพศาล รวมถึงคุณขวัญ ขวัญชีวัน วิริยะเจริญมงคล
เรื่องราวความเป็นมาของร้านบอร์ดเกมนี้จะเป็นอย่างไร ทำบอร์ดเกมในยุคที่กระเเสบอร์ดเกมเเรงเเบบนี้จะประสบความสำเร็จจริงอย่างที่เค้าว่ากันหรือไม่ พบคำตอบที่น่าค้นหากับ ธุรกิจด้วยหัวใจ ตอนที่ 3 Boarding Time Board Game Cafe
เรื่องราวของเเต่ละคนก่อนเริ่มต้นเปิด Boarding Time
นิด: ผมเป็นคนที่ชอบความบันเทิงตั้งเเต่เด็กอยู่เเล้ว ชอบอ่านการ์ตูน ชอบเล่นเกมกับเพื่อน พ่อผมก็เป็นคนสนับสนุนให้เล่นเกมอีกด้วย เเละพ่อนี่เเหละที่เป็นคนเอาบอร์ดเกมมาให้ลองเล่นครั้งเเรกในชีวิต เเต่ตอนนั้นยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคือบอร์ดเกม
เริ่มหันมาสนใจบอร์ดเกมแบบจริงจังตอนไปเรียนการบินที่นครพนม เรากลัวจะไม่มีอะไรทำตอนไปเรียน เลยไปหาซื้อเกมไว้เล่น พอเล่นเราก็เริ่มติด เลยเริ่มสะสมบอร์ดเกมตั้งเเต่นั้นเป็นต้นมา
ขวัญ: เป็นคนชอบกิจกรรมบันเทิงตั้งเเต่เด็กเหมือนกับนิด เเล้วก็ชอบเล่นเกมด้วย จุดเริ่มต้นที่ได้มาทำ Boarding Time คือเรากำลังจะเปลี่ยนงานเเละมีเวลาว่างพอดี ออมเลยชวนมาเปิดร้านด้วยกันพร้อมเเนะนำให้รู้จักบอร์ดเกม พอได้ลองเล่นเเล้วเราก็รู้สึกชอบขึ้นมาทันที
เอิร์น: ตั้งเเต่เด็กเราเคยเล่นเกมที่คล้ายบอร์ดเกมมาก่อนคือเกม RPG โดยเราต้องสวมบทบาทเป็นตัวละครตัวนึงแล้วมีคนที่ควบคุมโลกอยู่คนนึง เล่นโดยการพูดคุยกับเค้า ตอนนั้นเราก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกมเเบบนั้นเรียกว่าอะไร เราจับกลุ่มกับเพื่อนเเล้วเล่นเกม RPG เเทนที่จะไปเล่นเกมคอมพิวเตอร์ พอเล่นไปได้ระยะนึงเราจึงสนใจเกมเเนวนี้ จึงเริ่มศึกษา ค้นหาข้อมูลเรื่อย ๆ จนรู้ว่าคือบอร์ดเกม
จริง ๆ ผมไม่ได้รู้จักพี่นิด พี่ออม พี่ขวัญตั้งเเต่เเรก (คุณออม คุณขวัญ รู้จักกันตั้งเเต่สมัยมหาวิทยาลัย) เเต่มีโอกาสเข้ามารู้จักผ่านหุ้นส่วนอีกคนหนึ่ง พอได้คุยกันเเล้วรู้สึกว่าความคิดตรงกัน จึงตัดสินใจเข้ามาร่วมทำร้านนี้ด้วย
ออม: เราตรงกันข้ามกับทุกคนที่พูดมา เราไม่รู้เลยว่าตัวเองชอบอะไร เเต่รู้ว่าเราทำอะไรได้หลายอย่าง บอร์ดเกมไม่ใช่สิ่งที่เราคุ้นเคยเเต่เราเข้ามาได้เพราะเเฟนเรา (คุณนิด) อยากมาทำตรงนี้ เราจึงได้รู้จักเรื่องราวของบอร์ดเกม
เนื่องจากทำงานบริษัทมาก่อน เราเลยใช้ประสบการณ์มาช่วยนิดและทีมบริหารจัดการร้านให้เป็นระบบมากขึ้น โดยหน้าที่หลักของเราคือทำให้ร้านมันดำเนินไปต่อได้
ปัจจุบันนิดยังทำงานประจำ ส่วนเราออกมาเเล้ว ตอนเเรกเรายังไม่ได้ออกมาเเต่เพราะทำงานสองฝั่งไม่ไหว จึงตัดสินใจออกมาทำตรงนี้เต็มตัว
Boarding Time ในช่วงเริ่มต้น
นิด: ตอนเเรกไม่คิดจะเปิดร้านด้วยซ้ำ เพราะคิดจะขายบอร์ดเกมทางออนไลน์มากกว่า เเต่จุดเปลี่ยนคือหุ้นส่วนอีกคน คุณวิน วิชยุตม์ เอี่ยมอ่อง เค้าอยากเปิดร้าน Warhammer เเต่ไม่มีคนเฝ้าร้าน เราจึงเสนอตัวเข้ามาช่วยเเละขอฝากขายเกมด้วย เเต่สุดท้ายคุณวินก็สนับสนุนให้ใช้พื้นที่เปิดร้าน Boarding Time จนถึงทุกวันนี้
ออม: จริง ๆ เราโชคดีมาก ถ้าไม่มีคุณวินในช่วงเเรก Boarding Time อาจไม่มีโอกาสเกิดด้วยซ้ำ
เปิดร้านเเล้วเป็นไปตามที่คาดหวังหรือเปล่า ?
นิด: ช่วง 2-3 เดือนเเรกเราเปิดให้เล่นฟรี เพราะบอร์ดเกมในวันนั้นยังไม่ดังเท่าวันนี้ โดยหวังจะให้คนเล่นจ่ายค่าอาหารหรือเครื่องดื่มกับเราบ้าง
ออม: เหมือนใจเเลกใจ เราให้สถานที่เล่นเกมฟรี เพราะตอนนั้นถ้าคิดค่าเล่นจะหาคนเข้าร้านยาก เลยตัดสินใจเปิดให้เล่นฟรีเลย เราก็หวังว่าลูกค้าจะชวนเพื่อนมาเล่นได้ง่ายขึ้นและอย่างน้อยเค้าน่าจะสั่งอาหารหรือน้ำบ้างเเต่กลายเป็นว่าผิดคาด ลูกค้าหลายคนเล่นแต่ไม่สั่งอาหารหรือเครื่องดื่มเลย
เอิร์น: ผมเล่นบอร์ดเกมมาก่อนอยู่เเล้ว ในกลุ่มสังคมคนรักบอร์ดเกมมักจะสนับสนุนร้านที่ให้สถานที่เล่นฟรีด้วยการซื้ออาหาร เครื่องดื่ม หรือซื้อเกมกลับไปเล่นที่บ้าน เราคาดหวังจะได้กลุ่มคนเเบบนั้นมาเล่นที่ร้านเรา เเต่กลับกลายเป็นว่าคาดการณ์ผิดหมด
ขวัญ: เเต่การเปิดฟรี ช่วยให้เราขยายกลุ่มลูกค้าได้ดีขึ้น มันตอบโจทย์เรื่องกระเเสของบอร์ดเกม เเต่มันกลับไม่ตอบโจทย์เรื่องรายได้ของเราเท่าไหร่
ออม: คนมักจะคิดว่าคนเข้าร้านเยอะมากต้องรวยเเน่ ๆ เเต่เชื่อไหมว่ารายได้ทั้งวันยังไม่พอค่าเเรงของพนักงานคนเดียวในวันนั้นเลย เเต่การตัดสินใจให้เล่นฟรีตอนนั้นมันช่วยเราเรื่องการโปรโมทการเล่นบอร์ดเกมโดยรวม ซึ่งถือว่าได้ผลดีมากทีเดียว
ผ่านไป 6 เดือน ปัญหาเรื่องรายได้กลายเป็นปัญหาใหญ่ เเก้ปัญหากันอย่างไร ?
ออม: ตอนนั้นเราคิดละว่าเริ่มไม่ไหว เเต่เรายังคงมีเเนวคิดเหมือนเดิมคืออยากมีรายได้ให้เราพออยู่ได้ หากมีกำไรจะได้สั่งเกมมาเพิ่ม เราคำนวณกันเเล้วว่ารายได้ 300 บาท / คน / ต่อวันจะทำให้บริหารร้านได้ดีขึ้น เเต่พอปรึกษากันเเล้วเรามองว่ามันเเพงไป เราจึงปรับราคาลงมาที่ 200 บาท / คน / วัน
นอกจากนี้เรายังคิดระบบคูปองขึ้นมาเพื่อเป็นสิ่งตอบเเทนกลับไปให้ลูกค้าของเรา หากลูกค้าจ่าย 200 บาท เค้าจะได้คูปองกลับไป 200 บาท สำหรับซื้อน้ำหรืออาหารในครั้งถัดไป จริง ๆ ก็เหมือนเล่นฟรีนะ เเต่เราอยากให้ลูกค้าช่วยใช้จ่าย เราจะได้อยู่กันไปยาว ๆ ซึ่งก็มีกระเเสต่อต้านอยู่เหมือนกัน เเต่เราก็พยายามสร้างความเข้าใจกับกลุ่มลูกค้าว่าเราจำเป็นต้องหาวิธีให้ร้านอยู่รอด ซึ่งโมเดลนี้ก็ทำให้ร้านไปได้จนถึงทุกวันนี้ (*ปัจจุบันราคามีการปรับเปลี่ยน โปรดตรวจสอบที่ร้านอีกครั้ง)
นิด: การทำคูปองตรงนี้ช่วยเราตัดลูกค้าที่ไม่เข้าใจเราเเละอยากมาเล่นฟรีอย่างเดียวออก เเละเก็บไว้เฉพาะลูกค้าที่เข้าใจในแนวคิดนี้ไว้
ออม: จริงๆ เเล้วการทำร้านบอร์ดเกมเเบบนี้ต้องการลูกค้าที่เข้าใจ เเม้จะทำด้วยความรักเเต่เราก็ต้องมีรายได้ให้ร้านอยู่รอด
ทำร้านมา 3 ปีมีเรื่องราวเเปลก ๆ ที่น่าแชร์บ้างมั้ย ?
เอิร์น: ในช่วงที่เปิดให้เล่นฟรี เราเคยเจอคนมาเล่นตั้งเเต่ร้านเปิดตอนบ่ายสองจนถึงเที่ยงคืนโดยไม่ซื้อน้ำหรืออาหารของเราเลย เวลาเค้าหิวเค้าก็เดินไป 7-11 เเล้วกลับมาเล่นต่อ เราอยู่ในสังคมบอร์ดเกมมานาน สังคมนี้เป็นสังคมที่เอื้อเฟื้อเผื่อเเผ่ซึ่งกันเเละกันระหว่างร้านกับคนเล่น เราไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเจอคนเเบบนี้ที่ร้านของเรา
นิด: เคยเจอคนที่ใช้พื้นที่ร้านเราขายบอร์ดเกมของตัวเอง เข้ามาเล่นฟรีเเล้วก็หยิบเกมของตัวเองมาขายลูกค้าที่เขาพาเข้ามาด้วย
ออม: ช่วงที่เปิดให้เล่นฟรีเราเจอคนเเปลก ๆ เยอะมาก เเต่พอเราคิดค่าใช้จ่าย คนกลุ่มนั้นก็หายไปจากร้านของเราเลย
ขวัญ: ช่วงที่น่าประทับในก็มีเหมือนกัน ในช่วงเเรกเราไม่ได้มีพนักงานมากนัก ลูกค้าของเรานี่เเหละที่ช่วยเราสอนลูกค้ากลุ่มอื่นเล่นเกม ซึ่งบางคนก็กลายมาเป็นพนักงานของเราในปัจจุบัน
ออม: เสริมจากขวัญนิดหน่อยคือ มีกลุ่มลูกค้าที่น่ารัก แม้เค้าจะมาเล่นที่ร้านเราฟรีเเต่ก็อยากสนับสนุนเรา จึงซื้อเกมกับเราเรื่อย ๆ
กลับมาสู่ปัจจุบัน เเนวคิดการทำ Boarding Time คืออะไร ?
นิด: การเปิดร้านบอร์ดเกมไม่ได้สร้างรายได้เยอะ รายได้หลักของเราคือการขายบอร์ดเกม ร้านบอร์ดเกมไม่ได้มีคนเข้าออกเยอะในเเต่ละวัน เพราะกลุ่มนึงเมื่อมาเล่นเเล้วใช้เวลาหลายชั่วโมง เพราะฉะนั้นการขายอาหาร เครื่องดื่ม และขายบอร์ดเกมจึงเป็นรายได้หลักของเรา
ออม: ธุรกิจนี้ถ้าหวังเเต่ผลกำไร บอกเลยว่าทำไม่ได้ เวลาเห็นร้านบอร์ดเกมมีคนเล่นเยอะ ไม่ได้หมายความว่าจะมีรายได้เยอะ เพราะอย่างที่นิดบอกคนนึงมาเล่นครั้งนึงเสียค่าใช้จ่าย 200 – 300 บาท แต่นั่งเล่นเกือบครึ่งวัน เเละต้นทุนค่าบอร์ดเกมเกมนึงหลายพันบาท ซึ่งเป็นต้นทุนที่สูง เพราะฉะนั้นคุณต้องรักบอร์ดเกมจริง ๆ ถึงจะลงมาทำธุรกิจนี้ได้
เอิร์น: เเนวคิดของการทำร้านบอร์ดดิ้งไทม์ของผมคือเราต้องเล่นเกมให้ถูกต้องตามที่นักออกเเบบเกมทำมา ผมจึงค่อนข้างเข้มงวดกับพนักงานในร้านให้สอนลูกค้าให้ถูกต้อง
สิ่งที่ภูมิใจที่สุดในการทำร้าน Boarding Time
เอิร์น: ผมอยากสร้างสังคมบอร์ดเกมขึ้นมา อยากให้คนรู้จักบอร์ดเกมมากขึ้น เทียบ 3 ปีที่เเล้วกับปัจจุบันคนรู้จักบอร์ดเกมเยอะขึ้น เเค่นี้เราก็ภูมิใจเเล้ว
สิ่งที่ภูมิใจที่สุดโดยส่วนตัวอีกอย่างคือ เวลาลูกค้าเดินเข้าร้านมาเเล้วอยากให้เราเป็นคนช่วยสอนเกมเพราะเค้าบอกว่าเราสอนเกมได้ดีเเละเเม่นยำที่สุด สำหรับผม เกมไม่ใช่เพียงเเค่อ่าน Rulebook เเล้วจะเล่นได้ เเต่ต้องลองเล่นด้วยตัวเองจริง ๆ ผมเองลองเล่นคนเดียวซ้ำไปซ้ำมาเพื่อให้เข้าใจเกมนั้นอย่างถ่องเเท้ก่อนจะไปสอนคนอื่นเสมอ
ขวัญ: เราเห็นคนเข้ามาเล่นบอร์ดเกมเเล้วมีความสุขเราก็รู้สึกภูมิใจมากเเล้ว ยิ่งพอรู้ว่าเค้าได้สิ่งดี ๆ จากการเล่นบอร์ดเกมกลับไปเราก็ยิ่งดีใจ
ออม: ทุกครั้งเวลาเราอยู่ร้าน เราจะมีความสุขทุกครั้งเวลาเห็นคนหัวเราะขณะเล่นเกม การมาทำตรงนี้สิ่งที่ภูมิใจที่สุดไม่ใช่เเค่เห็นลูกค้ามีความสุข เเต่เห็นผู้ร่วมงานทุกคนมีความสุข เเละร้านสามารถเดินต่อไปได้
นิด: ภูมิใจทุกคนที่ทำให้ร้านเดินต่อจนสามารถขยายสาขาไปลาดพร้าวได้ จนทุกวันนี้ Boarding Time พอเป็นที่รู้จักของคนในวงการบอร์ดเกมก็ดีใจแล้ว
“การเล่นบอร์ดเกมทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ”
จุดเริ่มต้นของ Siam Board Games (จัดจำหน่ายเกมเเปลไทยถูกลิขสิทธิ์)
ออม: อยู่ดี ๆ นิดก็บอกว่าเรามาทำเกมภาษาไทยกันเถอะ
นิด: ต้องยอมรับว่าคนไทยยังไม่เก่งภาษาอังกฤษ เราเลยคิดว่าจะทำยังไงให้คนไทยอินกับเกมได้มากที่สุด เพราะบางคนเห็นตัวอักษรภาษาอังกฤษเยอะ ๆ เค้าก็เบือนหน้าหนีเเล้ว เราจึงอยากทำเกมภาษาไทยให้คนได้เล่นกันเป็นวงกว้าง โดยเราก็ได้ตัดสินใจทำเกมที่เข้าใจง่ายและมีชื่อเสียงระดับนึงอยู่เเล้วอย่าง Splendor หรือเกมค้าเพชรซึ่งเป็นเกมที่ขายที่ดีที่สุดของร้าน เราจึงติดต่อเจ้าของลิขสิทธิ์และตัดสินใจทำ
เอิร์น: ประชุมกันอยู่ดี ๆ พี่นิดก็โพล่งขึ้นมาว่าทำเกมภาษาไทยกันเถอะ พอเราคิดถี่ถ้วนเเล้ว เราจึงตัดสินใจทำ โดยตั้งบริษัทขึ้นใหม่สนับสนุนเเนวคิดนี้ เราอยากทำเกมเป็นภาษาไทยเพื่อให้คนทุกภาคของประเทศไทยเข้าถึงบอร์ดเกมได้ง่ายขึ้น
นิด: จริง ๆ เเล้วหนึ่งในปัจจัยหลักในการเปิดร้านบอร์ดเกมในไทยเพราะว่าคนไทยส่วนใหญ่ต้องการคนสอนเกม เพราะถ้าเทียบกับลูกค้าต่างชาติ ลูกค้ากลุ่มนี้เค้าอ่านเเละศึกษาเกมได้ด้วยตัวเอง
ออม: ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาเลยคิดว่าทำบอร์ดเกมภาษาไทยน่าจะเป็นไปได้ ซึ่งเรามองว่าการทำบอร์ดเกมภาษาไทยจะช่วยให้คนเข้าถึงบอร์ดเกมได้ในวงกว้างขึ้น สร้างผู้เล่นหน้าใหม่ได้มากขึ้น เพราะเมื่อเกมเป็นภาษาไทยเเล้วก็ไม่จำเป็นต้องมีคนสอน
นิด: ปัจจุบันบอร์ดเกมภาษาไทยของเราขายดีใน B2S เเละจับลูกค้าต่างจังหวัดได้เยอะมาก
ผลตอบรับจากการตัดสินใจทำ Siam Board Games ?
เอิร์น: ผลตอบรับมีทั้งดีและไม่ดี เพราะกลุ่มลูกค้าของเราคือกลุ่มผู้เล่นใหม่ ปัญหาหลักของเราคือการตั้งชื่อเกมเป็นภาษาไทยที่เข้าใจง่าย เพราะเราอยากให้คนที่ไม่รู้จักบอร์ดเกมเลย พออ่านชื่อเกมเเล้วจะเข้าใจทันที ไม่อยากทำทับศัพท์เหมือนที่เจ้าอื่นเคยทำกัน
ออม: จริง ๆ ตอนเเรกที่จะทำเราไม่คิดว่ามันน่าทำเลยนะ เพราะเราตั้งคำถามเสมอว่า จะขายใคร คุ้มทุนเมื่อไหร่ ต้นทุนเท่าไหร่ ทำการตลาดยังไง เเม้จะไม่ได้คำตอบที่เเน่ชัด เเต่ด้วยความเชื่อมั่นของทีม เราจึงตัดสินใจทำตรงนี้ เราโชคดีที่ได้ Splendor เป็นเกมเเรกมาจัดทำเป็นภาษาไทยเพราะเป็นเกมที่ติดตลาดอยู่นานเเล้ว หากได้เกมอื่นเป็นเกมเปิดตัว เราอาจจะไปไม่รอดก็ได้นะ
ปัจจุบันมีเกมอะไรบ้าง
นิด: ตอนนี้มี 12 เกม ซึ่งยังไม่ออก 4 เกม
- เกมค้าเพชร Splendor
- ชัยปุระ Jaipur
- เกมโรงไฟฟ้า Power Grid
- หัตถ์ราชา Game of Thrones: Hand of the King
- โลกใหญ่ใบเล็ก Small World
- จดหมายรัก Love Letter
- มนุษย์หมาป่า Werewolf
- เกมต่อรถไฟ Ticket to Ride
เกมต่อรถไฟ (Ticket to Ride) มีประเด็นเหมือนกันเพราะสังคมบอร์ดเกมมองว่าเราตั้งชื่อไม่ดีพอ เเต่เราอยากเเปลให้กลุ่มคนที่ไม่เคยเล่นบอร์ดเกมมาก่อนเข้าใจง่ายที่สุด
ออม: เเม้เกมที่ผลิตในประเทศไทยจะมีต้นทุนต่ำกว่าเกมนำเข้าจากต่างประเทศ เเต่เราตัดสินใจปรับราคาเกมให้ถูกกว่าราคาเกมต้นฉบับ ยอมได้กำไรน้อยลงโดยหวังว่าคนจะตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
อนาคตของ Siam Board Games ?
ออม: หลัก ๆ เราเลือกเกมที่คนเล่นครั้งเเรกน่าจะประทับใจเเละทำให้อยากเล่นเกมใหม่ ๆ ของบอร์ดเกมอีก เราต้องการสร้าง First Impression ที่ดีจึงพยายามเเปลเกมคลาสสิคที่โด่งดังให้ได้เยอะ ๆ เเต่ก็ไม่ลืมเกมสมัยใหม่ที่น่าสนใจเช่นกัน
Siam Board Games จะไม่ใช่เเค่เเปลเกมอย่างเดียว เเต่เรามีความตั้งใจจะสร้างเกมของ Siam Board Games เองด้วย โดยเรารับพิจารณาไอเดียเกมจากนักออกเเบบเกมชาวไทย ซึ่งปัจจุบันเรากำลังคิดวิธีเปิดรับไอเดียใหม่ ๆ อยู่ ซึ่งหากไอเดียนี้สำเร็จ เกมของคนไทยจะมีโอกาสออกไปสู่สังคมบอร์ดเกมของต่างประเทศได้
นิยาม Success Point ?
เอิร์น: สำหรับผมเอง ผมมองว่า Boarding Time ประสบความสำเร็จเเล้วนะ ปัจจุบันคนเห็นร้านเราก็รู้เเล้วว่ามันคือร้านบอร์ดเกม ต่างจากเมื่อก่อนมาก สำหรับ Siam Board Games เราอยากให้บอร์ดเกมกลายเป็นกิจกรรมที่เเพร่หลายในประเทศไทย
นิด: สำหรับคนอื่นมองว่ารายได้เยอะคือประสบความสำเร็จ เเต่สำหรับร้านบอร์ดเกมเงินไม่ใช่ปัจจัยหลัก จุดที่เราคิดว่าเราประสบความสำเร็จคือคนรู้จักบอร์ดเกมเพียงเเค่พูดชื่อเกม พูดปุ๊ปรู้ปั๊บว่าเกมนี้คืออะไร นั่นเเสดงว่าบอร์ดเกมมีชื่อเสียงเเล้ว
ความฝันและ Passion
เอิร์น: ขอบอกว่าเรามีทุกวันนี้ได้เพราะเกม เกมมันสอนอะไรมากกว่าที่เราคิดเเต่หลายคนมองไม่เห็นความสำคัญของมัน ปัจจุบันผู้ใหญ่หลายคนยังมองว่าการเล่นเกมเป็นเรื่องเสียเวลา อย่างน้อยการที่เราทำตรงนี้สามารถบ่งบอกได้เเล้วว่าเกมสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันและสร้างงานได้จริง
เป้าหมายสูงสุดของชีวิตเราคืออยากให้คนไทยยอมรับว่าเกมไม่ใช่เรื่องไร้สาระ เราสามารถตักตวงผลประโยชน์จากเกมได้
นิด: เราอยากเห็นคนไทยเล่นบอร์ดเกมเเละยอมรับในตัวบอร์ดเกมมากขึ้น เพราะจริง ๆ เเล้วเกมให้อะไรมากกว่าที่เราคิด
ข้อคิดดี ๆ สำหรับคนที่อยากทำธุรกิจของตัวเอง
เอิร์น: การทำธุรกิจไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม เราต้องเริ่มต้นด้วยความรักเสมอ เมื่อพูดถึงสินค้าหรือบริการที่ไม่ได้เข้าถึงตลาดคนหมู่มาก จำเป็นต้องมีความรักกับมันก่อน ธุรกิจไม่ได้ให้กำไรกับเราในตอนเริ่มต้น เพราะฉะนั้นความรักค่อนข้างสำคัญในการทำธุรกิจ
นิด: อยากให้รักในธุรกิจที่ทำ เเต่รักอย่างเดียวไม่ได้ทำให้ธุรกิจอยู่รอด อย่างไรก็ตามให้คิดถึงเรื่องเงินด้วย เเม้เราจะสนุกกับการทำธุรกิจ เเต่หากรายได้ไม่สอดคล้องกัน สุดท้ายก็จะไปไม่รอด
[metaslider id=1682]
ถ้าเราได้ลองเล่นเกมที่สอนจากคนที่รักบอร์ดเกมจริง ๆ คงจะสร้างความประทับใจในการเล่นเกมของเราได้ไม่น้อยเลยนะครับ
ผู้ที่รักบอร์ดเกมรวมถึงคนที่สนใจอยากเข้ามาลองเล่นบอร์ดเกม สามารถสัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีได้ที่ร้าน Boarding Time Board Game Cafe ทั้ง 2 สาขา
- สาขาเพลินจิต ตึกมหาทุนพลาซ่า ติดสถานีรถไฟฟ้าเพลินจิต
- สาขาลาดพร้าว MRT สถานีพหลโยธิน ออกประตู 1 เดินประมาณ 700 เมตร อยู่ระหว่างลาดพร้าวซอย 8 กับ 10
รายละเอียดเพิ่มเติม
Boarding Time Board Game Cafe: https://www.facebook.com/BoardingTimeGames
Siam Board Games: https://www.facebook.com/siamboardgames