หรือความเข้าใจในข้อมูลเชิงลึก (Insight) จะเป็นพระเอกสำคัญในการวางกลยุทธด้านการตลาด (Marketing Strategy) เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง?
ยุคนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นยุคแห่งข้อมูล ข้อมูลจำนวนมหาศาลเกิดขึ้นและถูกจัดเก็บไว้อย่างเปะปะ แต่แน่ละในสังคมเราก็มักจะมีผู้นำที่ก้าวทันยุคสมัยได้จัดเตรียมไว้อย่างเป็นระบบระเบียบ ทั้งที่เกิดจากทางด้านการทำธุรกิจ… ธุรกรรม… การใช้จ่าย… การใช้งาน… การดำเนินงาน… และ และ และ… แล้วก็ และ! คุณคงพอเห็นภาพขึ้นมาบ้างนะว่าข้อมูลมันเยอะแยะขนาดไหน นี่ยังไม่รวมถึงการใช้งาน Digital Platforms ต่างๆ ที่ผุดกันขึ้นมายิ่งกว่าดอกเห็ด
การวางแผนตลาดในยุคก่อน การจะทำ marketing นั้นจะทำด้านอะไรบ้าง คุณคงต้องย้อนกลับไปอ่านหนังสือสรุปรวมสักเล่ม ตั้งแต่ marketing 1.0, 2.0, 3.0 … แต่ในปัจจุบันคำว่า Digital มันเข้ามามีบทบาทในแถวหน้าเป็นที่เรียบร้อย การใช้ Technology จะเป็นส่วนสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นในด้าน Marketing Tech หรือจะลงลึกในระดับ Business ที่เราคงจะได้ผ่านตากันบ่อยมากๆ ในปี 2017 นี้ กับคำว่า Digital Transformation ซึ่งจะก่อให้เกิดการ Disruptive เปลี่ยนแปลงวิธีการทำธุรกิจในระดับสุดสวิงริงโก้กันแน่ๆ เรียกว่าถ้าใครไม่ปรับตัว หรือยังกล้าๆ กลัวๆ ก็ดูจะสายเกินไปแล้วในชั่วโมงนี้
Big Data ที่ได้ยินกันบ่อยๆน่ะ ถ้าจะพูดกันให้เข้าใจในภาษาง่ายๆ มันก็ตรงตัวนะ กลุ่มข้อมูลขนาดใหญ่ ทีนี้ ที่ว่าใหญ่น่ะใหญ่แค่ไหน? ใหญ่จนกระทั่งถ้าจะนำข้อมูลมาวิเคราะห์ ประมวลผล ต้องแท็คทีม Computers กันมาเป็นกระบุง หรือที่เรียกกันว่าระบบ Cloud ซึ่งจะมาช่วยกันงมกันในเรื่อง 3Vs ของ Big Data Volume, Velocity และ Variety ช่วยกันคิดค้นหาข้อสรุปเพื่อเอาไปใช้ประโยชน์กันต่อไป แต่การวิเคราะห์จะเป็นยังไง คุณลองนึกภาพตัวอย่างง่ายๆ กับการเก็บข้อมูลการใช้งาน website ด้วย Google Analytics คุณจะรู้ Customer Journey จากต้นสายถึงปลายสาย ว่าสิ่งใดที่ทำให้ก่อให้เกิดการขายมากที่สุด รูปภาพ? เนื้อหาแบบไหน? ข้อเสนออะไร? แต่ทีนี้ถ้ามองให้ซับซ้อนไปกว่านั้น คุณลองเอาไปผูกกับ Customer Insight ลูกค้าคุณเป็นใคร? Buying Behavior เป็นแบบไหน? มี Lifestyle ยังไง? บริโภค Content ประเภทไหน??? พล่ามกับมาซะเหนื่อยขนาดนี้ แต่มันยังแค่เป็นแค่เรื่องพื้นๆ เท่านั้นเอง
เอาล่ะ เมื่อได้ทิศทางและคำตอบที่เราตั้งคำถาม เหมือนมีไฟส่องทางเราคงเดินกันต่อไปได้ง่ายขึ้น อันนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่า มันเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ เราๆ ท่านๆ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำ marketing แบบเดาสุ่มให้สิ้นเปลืองกันอีกต่อไป และที่สำคัญคือยังช่วยยกระดับ UX (User Experience) ให้เหนือไปอีกขั้น นำไปสู่ CX (Customer Experience) ที่ยอดเยี่ยม คือการสร้างให้เกิดความพึงพอใจที่ดีทั้งระบบ Business ที่ไม่ได้มองแค่ Touchpoint อันใดอันหนึ่งเหมือนในอดีตกันอีกต่อไป
สุดท้ายแล้วใครได้ประโยชน์? งานนี้จะบอกว่าด้าน Business และฝ่าย Marketing ได้ประโยชน์ไปเต็มๆ ก็เหมือนจะพูดไม่ครบ ก็ในเมื่อคุณเป็นนักธุรกิจหรือนักการตลาด แต่อย่าลืมว่าคุณเองก็เป็นปุถุชนคนบริโภคด้วยเหมือนกันนี่ล่ะครับ มันก็เป็นพัฒนาการของสังคมที่ก่อร่างสร้างสรรกันไป เพื่อความสะดวกสบาย เพื่อชีวิตที่ดีกว่าเดิม เรียกว่า วินๆ แฮปปี้กันทั้งระบบ ครับผม!
Refs: https://www.ibm.com/think/marketing/
